ไข้เลือดออกคืออะไร?

ไข้เลือดออกเป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันที่เกิดจากไวรัสไข้เลือดออก และส่วนใหญ่แพร่กระจายผ่านการถูกยุงกัด อาการของโรคไข้เลือดออก ได้แก่ มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อและข้อ มีผื่น และมีแนวโน้มเลือดออก ไข้เลือดออกที่รุนแรงอาจทำให้เกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำและมีเลือดออกซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

วิธีป้องกันโรคไข้เลือดออกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการถูกยุงกัด รวมถึงการใช้ยากันยุง การสวมเสื้อผ้าและกางเกงขายาวแขนยาว และใช้มุ้งในบ้าน นอกจากนี้วัคซีนไข้เลือดออกยังเป็นวิธีสำคัญในการป้องกันโรคไข้เลือดออกอีกด้วย

หากคุณสงสัยว่าเป็นโรคไข้เลือดออก คุณควรไปพบแพทย์ทันทีและรับการรักษาและคำแนะนำจากแพทย์ ในบางพื้นที่ โรคไข้เลือดออกถือเป็นโรคระบาด ดังนั้น ควรทำความเข้าใจสถานการณ์การแพร่ระบาดที่จุดหมายปลายทางของคุณก่อนเดินทาง และใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสม

อาการของโรคไข้เลือดออก

ไข้เลือดออก+ไข้+อาการ-640w

อาการของโรคไข้เลือดออกมักปรากฏขึ้นประมาณ 4 ถึง 10 วันหลังการติดเชื้อ โดยมีอาการดังต่อไปนี้:

  1. ไข้: มีไข้ฉับพลัน มักเกิดขึ้นนาน 2 ถึง 7 วัน โดยมีอุณหภูมิสูงถึง 40°C (104°F)
  2. ปวดศีรษะและปวดตา: ผู้ติดเชื้ออาจมีอาการปวดศีรษะรุนแรง โดยเฉพาะอาการปวดรอบดวงตา
  3. อาการปวดกล้ามเนื้อและข้อ: ผู้ที่ติดเชื้ออาจมีอาการปวดกล้ามเนื้อและข้ออย่างมาก โดยปกติเมื่อมีไข้เกิดขึ้น
  4. ผื่นที่ผิวหนัง: ภายใน 2 ถึง 4 วันหลังไข้ ผู้ป่วยอาจมีผื่นขึ้น มักเกิดที่แขนขาและลำตัว โดยจะแสดงผื่นหรือผื่นตามจุดตาแดงเป็นสีแดง
  5. แนวโน้มเลือดออก: ในบางกรณีที่รุนแรง ผู้ป่วยอาจมีอาการต่างๆ เช่น เลือดออกทางจมูก เลือดออกตามเหงือก และมีเลือดออกใต้ผิวหนัง

อาการเหล่านี้อาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้า หากมีอาการคล้าย ๆ กันเกิดขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีโรคไข้เลือดออกเป็นโรคประจำถิ่นหรือหลังการเดินทาง แนะนำให้ไปพบแพทย์ทันทีและแจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติการสัมผัสที่อาจเกิดขึ้น

เราเบย์เซนการแพทย์ก็มีชุดตรวจไข้เลือดออก NS1และชุดตรวจไข้เลือดออก Igg/Iggm สำหรับลูกค้าสามารถรับผลการทดสอบได้อย่างรวดเร็ว

 


เวลาโพสต์: 29 ก.ค.-2024